สองแข้งสเปอร์สรวมตัวซ้อมกลางแจ้ง
นักเตะจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอีกครั้ง หลัง แซร์จ ออริเยร์ และ มุสซา ซิสโซโก้ รวมตัวกันฝึกซ้อมกลางแจ้ง
ก่อนหน้านี้บุคลากรของไก่เดือยทองถูกโจมตีมาแล้วสองครั้ง จากการฝ่าฝืนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อ โชเซ มูรินโญ ถูกจับภาพขณะติวเข้มฝึกซ้อม ตองกี เอ็นดอมเบเล ในสวนสาธารณะ ขณะที่ ดาวิสัน ซานเชซ และ ไรอัน แซสเซญง ถูกจับภาพได้ขณะวิ่งจ็อกกิ้งลำตัวแนบชิดกัน
ล่าสุด แซร์จ ออริเยร์ โพสต์คลิปวีดีโอขณะรวมตัวซ้อมกับ มุสซา ซิสโซโก้ ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมเขียนแคปชันกำกับว่า “ซ้อมกับพี่ชาย” ก่อนที่จะรีบลบคลิปดังกล่าวในเวลาต่อมา แต่มันก็ไม่รอดพ้นสายตาของคนทั่วไป
ด้านโฆษกของสเปอร์สออกมาพูดถึงเรื่องนี้แล้วว่า “เราจะคุยกับนักเตะทั้งสองคนที่เกี่ยวข้อง”
ทั้งนี้ อังกฤษเป็นหนึ่งประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19หนักมาก จนรัฐบาลต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยอนุญาตให้ออกมาออกกำลังกายเพียงวันละหนึ่งครั้ง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร
เอียน รัช ชูลิเวอร์พูลยุคนี้โหดกว่ายุคของตน
เอียน รัช ตำนานกองหน้า ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าถ้าเทียบเฉพาะเรื่องผลงานการเล่นแล้วนั้น “หงส์แดง” ยุุคนี้ก็ถือว่าเก่งกว่าทีมในยุคของตนด้วยซ้ำ
ฤดูกาลก่อนทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ และซีซั่นนี้ก็กำลังจะเป็นแชมป์ลีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนยกย่อง ลิเวอร์พูล ชุดนี้ว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งและดีพอจะได้แชมป์แบบเป็นกอบเป็นกำ เหมือนกับ ลิเวอร์พูล ในยุคทศวรรษ 1980 ที่ รัช เคยเล่นให้ โดยอดีตยอดหัวหอกชาวเวลส์เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดกับ ลิเวอร์พูล 5 สมัย และแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ อีก 2 หน
รัช เผยว่า “การที่พวกเขาจะมาอยู่ระดับเดียวกับทีมชุดก่อนได้น่ะ พวกเขาจำเป็นต้องประสบความสำเร็จอย่างมากด้วย ถ้ามองถึงสถิติแล้วน่ะที่จริงพวกเขาดีกว่าทีมยุคผมด้วยซ้ำ แต่คุณจำเป็นต้องได้แชมป์หลายรายการด้วย มันช่วยได้มากเลย!”
“ลองดูฤดูลกาลก่อนสิ พวกเขาได้ 96 คะแนน แต่ก็ยังไม่ได้แชมป์ลีก ดังนั้นพวกเขาเลยยกระดับเกมการเล่นขึ้นไปอีก พอพวกเขาไม่ได้แชมป์ลีกแล้วนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ต้องพูดว่า -เราต้องทำให้ดีกว่านี้อีก- ซึ่งพวกเขาก็ทำได้จริงๆ พวกเขาเป็นทีมที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ”
“นอกจากนี้ สิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำได้ดีเหมือนกันคือการใช้แนวทางแบบเดียวกับที่เราเรียกว่าบู้ทรูม ในยุคของผู้จัดการทีมอย่าง บ็อบ เพสลี่ย์, รอนนี่ โมแรน, โจ ฟาแกน และ รอย อีแวนส์ เขามีทีมงานเบื้องหลังที่ยอดเยี่ยม ทีมสตาฟฟ์ของเขาเก่งมากๆ สตาฟฟ์โค้ชคือคนที่ทำให้นักเตะยังมีความสุข, ทำให้คนรู้สึกสนุก และคุณต้องการคนที่จะเป็นผู้นำด้วย สมัยของเรา เพสลี่ย์ เป็นผู้นำ และสมัยนี้ก็เป็น เจอร์เกำน นั่นคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างได้”
