ตำนานทีมชาติฝรั่งเศส เปิดใจถึงรอยด่างในฟุตบอลโลก 2006 รอบชิงชนะเลิศ พร้อมเผยถึงโอกาสกลับมารับงานกุนซือ ทำ 1 ทีมมีความหวัง
เกมนั้น ซีดาน สังหารจุดโทษอย่างเหนือชั้นให้ทีมชาติฝรั่งเศสขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 7 ก่อนโดน มาร์โก มาเตรัซซี ตีเสมอให้ทีมชาติอิตาลี 1-1 ในนาทีที่ 19 จากนั้น ซีดาน ก็เกิดบันดาลโทสะ หลังโดน มาเตรัซซี พูดจายั่วยุด้วยการลามปามถึงครอบครัวแบบไม่สุภาพ ก่อนใช้ศีรษะโขกเข้าไปที่หน้าอกของคู่กรณีจนโดนใบแดงไล่ออกในช่วงต่อเวลาพิเศษ สุดท้าย ฝรั่งเศส ก็แพ้ อิตาลี ในการดวลจุดโทษตัดสิน 3-5 ก่อนที่ดาวเตะจอมเทคนิคจะปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลนับตั้งแต่นั้นมา
ล่าสุด ซีดาน ที่กำลังจะมีอายุครบ 50 ปีในวันที่ 23 มิถุนายน เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ผมไม่ภูมิใจในสิ่งที่ผมทำลงไปเลย แต่มันเป็นส่วนหนึ่งในอดีตของผม ส่วนประตูจากจุดโทษ ผมมีเวลา 1-2 วินาทีให้คิดว่าจะทำอย่างไร และผมต้องเผชิญหน้ากับผู้รักษาประตูที่รู้จักผมเป็นอย่างดี (จานลุยจิ บุฟฟอน) ดังนั้นผมต้องคิดอะไรบางอย่าง การยิงจุดโทษแบบนั้นแน่นอนว่ามีเรื่องของเทคนิคด้วย ผมไม่คิดว่าจะเป็นความบ้า คุณอาจยิงจุดโทษพลาดได้ แต่ ณ เวลานั้น มันเป็นสิ่งที่ผมต้องทำ”
ขณะเดียวกัน ซีดาน ที่เคยพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกันในปี 2016-2018 ยังเผยถึงการกลับมาเป็นกุนซือนับตั้งแต่แยกทางกับ “ราชันชุดขาว” เมื่อปี 2021 ว่า “ผมอยากทำงานนั้นต่อไป เพราะผมยังมีไฟอยู่ มันคือความหลงใหลของผม ผมเพิ่งจะอายุ 50 ปี การเติมเต็มชีวิตด้วยความสมหวังและความสุข นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
การให้สัมภาษณ์เช่นนี้ ทำให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีลุ้นได้ตัว ซีดาน เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่แทน เมาริซิโอ โปเชตติโน ที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยแรกของสโมสรได้ แต่เวลานี้ เปแอสเช ยังเจรจากับ คริสตอฟ กัลติเยร์ ผู้จัดการทีมนีซ ที่เคยพา ลีลล์ ปาดหน้าพวกเขาคว้าแชมป์ลีกเอิง ฤดูกาล 2020-21 เพื่อเป็นตัวเลือกที่ 2 หากไม่สามารถตกลงกับ ซีดาน ได้