กุนซือเชลซี ชมกองหน้าลูกครึ่งไทย-อังกฤษ พร้อม 2 เพื่อนร่วมรุ่นที่ได้ประเดิมชุดใหญ่ใน ลีกคัพ รอบ 8 ทีม หลังรุ่นพี่โดนโควิดเล่นงาน
วันที่ 23 ธ.ค. 64 ควันหลงฟุตบอลคาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่ง เชลซี บุกไปชนะ เบรนท์ฟอร์ด ทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ สเปอร์ส คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน โดยเลกแรกจะแข่งขันวันที่ 3 มกราคม ส่วนเลก 2 แข่งขันวันที่ 10 มกราคม
เกมนี้ โธมัส ทูเคิล กุนซือ เชลซี ต้องดันดาวรุ่งจากทีมเยาวชนขึ้นมาใช้งานถึง 5 ราย หลังจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในทีมถึง 7 คนบวกกับผู้เล่นบาดเจ็บอีกหลายราย ทำให้ไม่สามารถใช้งานนักเตะในทีมชุดใหญ่อย่าง โรเมลู ลูกากู, ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ได้
ดาวรุ่ง 5 คนที่ถูกดันขึ้นมาประกอบด้วย จู๊ด เบลล์ กองหน้าลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 17 ปี ที่ถูกส่งลงไปเป็น 11 คนแรกด้วยการยืนกองหน้าคู่กับ ฮาร์วีย์ เวล เพื่อนร่วมรุ่นวัน 18 ปี อีกคนที่ได้เป็นตัวจริง คือ ซาเวียร์ ไซมอนส์ มิดฟิลด์วัย 18 ปีที่ถูกโยกไปเล่นวิงแบ็กฝั่งขวา ส่วน 2 คนที่เป็นตัวสำรอง คือ ชาร์ลี เว็บสเตอร์ และ ลูอิส ฮอลล์ ซึ่งรายหลังสุดมาจากทีมชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ขณะที่ 4 คนแรกอยู่ในทีมชุดยู-23
หลังจบเกม โธมัส ทูเคิล เอ่ยปากชม จู๊ด เบลล์, ฮาร์วีย์ เวล และ ซาเวียร์ ไซมอนส์ ที่ได้โอกาสลง 11 คนแรก เพื่อทดแทนรุ่นพี่ที่โดนโควิด-19 เล่นงานว่า “พวกเขาเป็นเด็กดีและทำได้ดีมากจึงต้องขอแสดงความยินดีกับพวกเขาที่มีส่วนร่วมอย่างมากกับชัยชนะเกมนี้ นี่คือครั้งแรกของพวกเขาในทีมชุดใหญ่ ทั้งที่ได้ซ้อมกับเราเพียง 2 ครั้ง ผมจึงมีความสุขกับการมีส่วนร่วมของพวกเขา”
“พวกเขาไม่ได้ฝึกซ้อม 1 สัปดาห์เต็มๆ ในช่วงที่ต้องปิดอะคาเดมีเพื่อป้องกันโควิด-19 จากนั้นเราเพิ่งได้เชิญพวกเขามาซ้อมกับเราเมื่อ 2 วันก่อนเอง พวกเขาตั้งใจฟังสิ่งที่เราถ่ายทอดเป็นอย่างดีและพวกเขาก็ได้ทำหน้าที่ในคืนนี้ ส่วนอีก 8 คนก็แสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ของทีม มันง่ายสำหรับเราที่จะเล่นร่วมกัน เพราะพวกเขาต่างช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน”
ทั้งนี้ จู๊ด เบบล์ ซึ่งสามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติไทยได้เนื่องจากมีเชื้อสายไทยจากคุณตา ได้โอกาสอยู่ในสนามช่วง 45 นาทีแรก ก่อนที่ คริสเตียน พูลิซิช จะลงมาแทนในครึ่งหลัง ส่วน ฮาร์วีย์ เวล และ ซาเวียร์ ไซมอนส์ ถูกเปลี่ยนตัวกับ เมสัน เมาท์ และ รีซ เจมส์ ในนาทีที่ 65.
