ทูเคิ่ล สติหลุดลอย จัดทีม-วางตัวมั่วเละ

สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยติดแชทกับสาวอย่างหนักจนไม่ได้อ่านหนังสือสอบก่อนใช้วิธีวัดดวงฝนคำตอบแบบ “สุ่ม” คิดตื้นๆแค่ว่าหากโชคเข้าข้างซักหน่อย 50% ต้องมีเข้ามั่งแหละ

พฤติกรรมข้างต้นคือนิยามของการปรับนั่นเปลี่ยนนี่ระหว่างเกมของ ของ “โธมัส ทูเคิ่ล” ก่อน เชลซี แพ้พลิกล็อกให้ ดินาโม ซาเกร็บ 1-0

โดยหวังว่าใครซักคนในทีมหรือเหตุการณ์สุดวิสัยอะไรก็ได้มาช่วยชีวิตเหมือนวันที่เอาชนะ เวสต์แฮม ซึ่งแน่นอนมันไม่เกิดขึ้น ณ ที่ โครเอเชีย แห่งนี้

ทูเคิ่ล เริ่มติดกระดุมเม็ดแรกผิดด้วยการลองของแปลกใช้ เมสัน เมาท์ ยืนมิดฟิลด์คู่กลางสุดท้ายกลายเป็นบ่อ

จากนั้นเปลี่ยน “เดฟ” ออกในครึ่งหลังและส่ง ฮาคิม ซีเยค มาเปิดบอลแทน รีส เจมส์ ที่ถูกถอยไปยืนแบ็ค

ในครึ่งแรก เจมส์ แทบไม่ได้ครอสเพราะเจ้าถิ่นปิดช่องทางริมเส้น ทูเคิ่ล จึงตั้งใจแก้ปัญหาหน้างาน ในเมื่อไปไม่ถึงเส้นหลังก็ให้ ซิเยค มาเปิดด้วยเท้าซ้ายตรงระยะ 18-20 หลาสิไม่เห็นยาก

แผนนี้ไม่เวิร์ค เอ้าๆเปลี่ยนใหม่ช่วงนาที 70 นิดๆโยก ซิเยค มาโยนทางซ้ายก็เรียบร้อยออกทะเลแถมอยากจะเลี้ยงตัดเข้าในไม่ได้อีก เสียของกันไป

จอร์จินโญ่ แทน มาเตโอ โควาซิช ที่ไม่ได้เล่นขี้เหร่อะไร(แต่เก็บ เมาท์ ไว้จนครบ 90 นาที), คูคูเรญ่า เข้า เบน ชิวเลล์ ออกทั้งๆที่ฝ่ายหลังหาโอกาสให้ตัวเองไม่เป็น

ช่วง 10 นาทีแรก ผมเห็นรูปเกมของทั้ง 2 ทีมยังนึกในใจว่าด้วยระดับลีกที่เหนือกว่า เจอคู่แข่งเสือสิงห์กระทิงแรดมาเยอะกว่า ขี้หมูขี้หมาวันนี้ “สิงห์บลู” ต้องมีแต้ม

เพราะเอาจริงๆ ซาเกร็บ ยังไม่สามารถพาบอลเลยครึ่งสนามได้เลยร่วม 10 นาที รับอยู่ในแดนตัวเองโดนขึงเหมือนทีมที่รอบมอบตัว

โอบาเมยอง เปิดซิงนัดแรกอาจยังมีลูกเกรงใจเพื่อนร่วมทีม หลุดเข้าเขตโทษมีโอกาสส่องตามหน้าที่ striker แต่เลือกส่งให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 2 จังหวะและไม่ได้ซักลูก

ออกหมัดทั้งแย้บทั้งฮุคอยู่พักนึงแต่ ซาเกรบ เด้งเชือกครั้งแรกของเกมในนาทีที่ 13 เป็นการเอาบอลขึ้นเลยกลางสนามหนแรก เป็นประตู!!

จังหวะนี้หายนะ “แรก” เริ่มจากการการเข้าทำเดิมๆของ “สิงห์บลู” ที่เปิดบอลเข้าเขตโทษแต่หนนี้ดันเบาเหมือนส่งคืนให้เขา

โรเบิร์ต ลูบิซิช วิงแบ็คซ้าย (ที่วันนี้เล่นดีเอาทั้ง เจมส์ กับ ซิเยค อยู่หมัด) ได้วางยาวแบบสายฟ้าแลบ

หายนะ “สอง” คือเซนเตอร์ที่จับคู่กันเต็ม 90 นาทีหนแรกเมื่อวันเสาร์ทั้ง คูลิบาลี่ และ โฟฟาน่า ไม่แบ่งหน้าที่กันว่าใครควรชนใครควรรอง

การประกบ บรูโน่ เปทโควิช พร้อมๆกัน โดยที่ โฟฟาน่า ตัดสินใจ “ชะงัก” ในวินาสุดท้ายทันทีที่เห็น คูลิบาลี่ โถมโหม่งแต่ไม่ทันการณ์แล้ว

เปทโควิช ซึ่งสูง 193 ซม. โหม่งตัดหน้าให้ มิสลาฟ ออร์ซิช ที่ออกตัววิ่งตั้งแต่เพื่อนยังไม่โหม่งปล่อยให้ โฟฟาน่า มาเริ่มตั้งหลักโกยยังไงก็ได้แต่ตามหลัง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่ใช่กลางสนามเป๊ะๆด้วยครับ เลยครึ่งวงกลมแดนของเจ้าถิ่นลงมาอีก พื้นที่หลังบ้านโล่ง 60 หลาแต่สปีดปลายของ โฟฟาน่า เร่งไม่ขึ้นบวกกับ ออร์ซิช ซอยวิ่งได้ถี่กว่า

การเสียประตูไปก่อนแบบนี้ทำให้ เชลซี แทบไม่มีพื้นที่ในแดนสุดท้ายอีกเลยครับเพราะระบบหลัง 3 ของ ซาเกร็บ ที่แน่นอยู่แล้วเขี้่ยวหนักกว่าเดิม

การขึ้นเกมที่ช้าเชื่องของทีมเยือนทำให้พวกเราที่ดูอยู่ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะได้ประตูด้วยวิธีไหนนอกจากลูกเปิดที่จะไป “โป๊ะ” เข้าหัวใครซักคน

เกมบุกไร้วิชั่นส่วนเกมรับจะดันมาช่วยก็กล้าๆกลัวๆเพราะแข้งเจ้าถิ่นเทคนิคบอลเหลือกินเหลือใช้ เล่นดีหลายตัวเลยครับ ที่เด่นๆก็แบ็คซ้าย ลูบิซิช ที่พูดถึงไปแล้ว

ยังมี โยซิช มิซิช ตัวกลางคอยบัญชาเกมที่เปลี่ยนถ่ายบอลและนิ่งมาก

มิสลาฟ ออร์ซิช แย่งยากม้วนเก่งและทีเด็ดคือ เปทโควิช ที่เก็บบอลชนกับแนวรับ เชลซี ทั้งเกม การเล่นละม้ายคล้ายคลึง มิโตรวิช ของ ฟูแล่ม

เกมบุกของ “สิงห์บลู” ไม่ต่างจากที่เราเคยเห็นมาซีซั่นนี้ครับ ครอส ครอส แล้วก็ครอส

แผนในครึ่งแรกของ ทูเคิ่ล ไม่เวิร์คอย่างรุนแรง การจับ เมสัน เมาท์ มาคู่กับ โควาซิช ทำให้กลาง ซาเกร็บ มีเวลากับบอลเยอะมาก ไม่มีใครมาคอยเบรกใดๆ

มีจังหวะนึงลูกโยนจากแดนหลังของเจ้าถิ่นมาที่บริเวณกลางสนามแต่ เปทโควิช แกพักอกลงโล่งๆ ไม่มีใครเลยจริงๆจนผมได้ยินเสียงแหลมๆ “เฮ้ย!!!” ตะโกนทะลุผ่านทีวีออกมา (คาดว่าเป็นเสียงของ ทูเคิ่ล)

การเปิดหัวแพ้ครั้งนี้ส่งสัญญาณไม่ค่อยดีอย่างมากของพลพรรค “สิงห์บลู” เพราะ ดันแพ้ ซาเกร็บ ที่ถูกมองว่าอ่อนที่สุดในกลุ่มแต่ฟอร์มเกมนี้พิสูจน์แล้วว่าสายนี้โหดจัดเพราะยังมี 2 ทีมแข็งๆ อย่างมิลาน และ ซัลซ์บวร์ก รออยู่อีก

ที่น่าห่วงที่สุดตอนนี้คือ ทูเคิ่ล จะเซฟเก้าอี้ตัวเองอย่างไรในเมื่อทรงบอลและวิธีการเล่นเริ่มไม่ต่างจาก แฟร็งค์ แลมพาร์ด ก่อนถูกไล่ออกเข้าไปทุกทีแล้ว…

สถิติ สถิติ สถิติ

 เชลซี แพ้ 3 เกมนอกบ้านติดต่อกันเป็นหนแรกภายใต้การทำทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล โดยหนสุดท้ายที่เกิดขึ้นคือเดือนธันวาคม 2020 ตอนที่ยังเป็น แฟร็งค์ แลมพาร์ด คุมอยู่

 “สิงห์บลู” แพ้เปิดหัว แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นหนที่ 3 เท่านั้นของสโมสร

 นี่เป็นการคุม เชลซี นัดที่ 100 ของ โธมัส ทูเคิ่ล โดยสถิติ 50 นัดแรกเกมรับหล่อจัดเสียไปแค่ 24 ลูกแต่ 50 นัดหลังกลับไส้ไหลโดนไปถึง 53 ลูก

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ