“สิงห์บลู” สอยไก่ 2-0 บอยคัพยกแรก

 

ภายในเวลา 3 วัน โธมัส ทูเคิ่ล บอสใหญ่ เชลซี แสดงให้เราเห็นแล้วว่าไม่ว่าแผงผังระบบหน้าตาเป็นเช่นไรแต่รูปแบบการเล่นที่โค่น สเปอร์ส ใน คาราบาว คัพ “โหดจัด” ไม่ต่างจากวันที่กด ลิเวอร์พูล

จากฟอร์แมต “หากิน” 3-4-2-1 แต่ ทูเคิ่ล ทดลองปรับเป็นหลัง 4 โดยไม่มี 2 พระเอกจากนัดก่อนทั้ง มาเตโอ โควาซิช และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่นั่นไม่ได้ลดทอนความดุดันลงแม้แต่นิดเดียว

แม้ในช่วงต้นเกมเหมือนกล้องถ่ายทอดสดจะให้ความสำคัญกับ โรเมลู ลูกากู ที่ว่ากันว่าขอโทษและเคลียร์ใจกับโค้ชและเพื่อนๆแล้วจนได้ประเดิมตัวจริง

แต่ท้ายที่สุดเมื่อเวลาหมุนไปเรื่อยๆ “บิ๊กตู้” เป็นแค่ตัวประกอบ(ได้บอลน้อย) และที่เด่นขึ้นมาคือรูปแบบการเล่นของ เชลซี ทรงบอลที่ออกมาในครึ่งแรกต้องบอกว่า “คลับไก่” น่าสงสารมากครับ

โงหัวไม่ขึ้น สีหน้าของนักเตะและ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือที่กลับมาเยือนบ้านหลังเก่าในครึ่งแรกเป็นความรู้สึกของคนที่ “รอเข้าห้องแต่งตัว”

การเสียประตูตั้งแต่ 5 นาทีแรกไม่ใช่แค่ทำให้ “สิงห์บลู” ได้เปรียบมากขึ้นไปอีกในฐานะเจ้าบ้านแต่ในทางกลับกันทำให้ สเปอร์ส หมดสิทธิ์เล่นในแผนของตัวเอง

เชลซี เพรสสูงและ aggressive ในแบบฉบับ GEGENPRESS ไม่ต่างจากวันที่เสมอ “หงส์แดง” ไม่ว่าจะตอนเสียบอลหรือตอนที่คู่แข่งกำลังตั้งเกมขึ้นมา

ครับลูก 1-0 ที่ได้มาอย่างไวเหมือนเล่นหนังซ้ำในวันที่ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ สิงร่าง โม ซาลาห์ และตัดบอลจากด้านหลัง

แต่เปลี่ยนตัวละครเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ ที่รอฉกตั้งแต่เส้นกลางสนามจนกระทั่งแอสซิสต์ให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปกติ “ไก่เดือยทอง” เป็นทีมที่เล่นช้าค่อยๆขึ้นเกมและปรับสปีดเมื่อมาถึง 3 ตัวแบกอย่าง

เคน-ซอน-มูร่า แต่มีการประกาศคนหายหลังทั้ง 3 คนถูกตัดออกจากเกม ไม่สิ…ต้องบอกว่าถูกตัดตั้งหายแต่กลางสนามนู่นเลยโดย โอลิเวอร์ สคิปป์ และ ปิแอร์-เอมิล ฮอยแบร์ก

ต้องปากกัดตีนถีบจากากรถูกเพรสอย่างหนัก นี่คือแผนการเล่นที่ ทูเคิ่ล และแข้ง “สิงห์บลู” ซักซ้อมอย่างเข้มข้นถึงขนาดมั่นใจว่าเอาอยู่หมัดโดยมีเดิมพันคือไม่สำเร็จหลังบ้านรั่วทันที

แต่ด้วยคุณภาพนักเตะของเจ้าถิ่นต้องบอกว่าเป็นตัวที่ทำให้ไม่ว่าจะหลัง 3 หรือ 4 มันแทบไม่ต่างกัน

อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยิ่งเล่นยิ่งทำให้แฟนบอลรู้สึกเสียดายกับเงิน 200k ทำไมถึงให้ไม่ได้หรือ ซาอูล ที่วันนี้องค์ลงอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมา ทั้งแย่งบอลตัดบอล เชื่อมเกม ออกบอลเพื่อปั้นเกม

ในระหว่างที่ฝั่งผู้เล่น “ไก่เดือยทอง” พยายามเชื่อมและจูนตัวเองให้รับมือกับการเล่นของ เชลซี วันนี้แต่จู่ๆก็มาโดนลูก 2 ชนิด “อับโชค” เมื่อ ทังกานก้า โหม่งเคลียร์ไปถูก เดวิส ที่อยู่ใกล้ๆเป็น OG.

เด็กๆ “น้าคอน” ถูกดึงเข้าไปอยู่ในเขาวงกต กล่าวคือจะรับเพื่อรอสวนตอน เชลซี ได้บอลก็ทำได้ไม่สนิทใจเพราะไม่ไล่แข้งเจ้าถิ่นเขาก็เคาะแบบไม่รีบ

เมื่อคิดจะเพรสก็ทำอยู่ 2-3 คนเพราะไม่ใช่แนวทางของทีม สุดท้ายก็เปิดช่องตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย แตกยับแพ้ทุกจุด

ตลอดครึ่งแรก “คลับไก่” ไม่มีโอกาสยิงแม้แต่หนเดียวในขณะที่เจ้าถิ่นกระหน่ำไปร่วมนับสิบ

อย่างว่าแต่โอกาสยิงเลยครับแค่เก็บบอลเอาไว้กับตัวเกิน 2-3 วินาทีก็เก่งแล้ว ผลที่ออกมาจึงกลายเป็น “รองจ่าฝูงพรีเมียร์” ครองบอลเบ็ดเสร็จกว่า 70%

เห็นสภาพใน 45 นาทีทำให้ “น้าคอน” ต้องรีบเปลี่ยนเอา เอ็นดอมเบเล่ แทน โดเฮอร์ตี้ และปรับแผนใช้ระบบเดียวกับ “สิงห์บลู” คือ 4-2-3-1 ปรับจากหลัง 3 เป็น 4 แล้วมาเติมกลางเพื่อสู้กับ เชลซี

เกม สเปอร์ส ดีขึ้นเยอะทันตาเห็นและบุกใส่เยอะกว่าแต่พูดได้ว่า “สิงห์บลู” ตุนอยู่ 2 ลูกคงไม่มีความจำเป็นต้องเผาผลาญพลังงานที่หมดไปหลายลิตรจากเกมกับ ลิเวอร์พูล (รวมถึงครึ่งแรกในเกมนี้)

ครับเป็นที่เข้าใจกันได้ว่า เชลซี จะมาเพรสบ้าระห่ำแบบนี้ทุกนัดไม่ได้อยู่แล้วแต่ ทูเคิ่ล เลือกหยิบเอาความจำเป็น 2 เกมในบ้านที่จังหวะมันบีบบังคับพอดี

คงเตรียมเบาเครื่องในเกม เอฟเอ คัพ กับ “หมู” ในสุดสัปดาห์นี้ก่อนเจอ 3 เกมโหดทิ้งทวนในเดือนนี้ในการเจอกับ สเปอร์ส (เลก 2), แมนฯซิตี้ และ สเปอร์ส ทีมเดิมแต่เป็นในลีกแทน

เชลซี ใช้พลังงานไปเยอะแต่คุ้มค่ากับการปิดจ็อบ 2 ประตูในครึ่งแรกตามสูตรสำเร็จบอลเหย้าเยือน

แต่ในขณะเดียวกัน สเปอร์ส โชคดีที่ยังไม่ถึงกับตายสนิทและมีโอกาสแก้ตัวกับการตามแค่ 2 ลูกทั้งๆที่น่าจะโดน 3-4 ลูกในเกมนี้ด้วยซ้ำ

นี่คือมุม Positive เพื่อทั้ง 2 ทีมเอาไปเป็นสารตั้งต้นตัดสินนัดสุดท้ายในอีก 7 วันข้างหน้านี้

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ