“สิงห์โตนำ้เงินคราม” ยุคใหม่

เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วสำหรับการเทกโอเวอร์กิจการสโมสรเชลซี ของท็อดด์ โบห์ลี  มหาเศรษฐีอเมริกัน หลังจากยืดเยื้อมาเกือบ 1 เดือนเต็มๆ จนล่าสุด “สิงห์โตน้ำเงินคราม” ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า โบห์ลี เป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่เป็นที่เรียบร้อย

จากการประกาศดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นการหมดยุคสมัยของ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช  อดีตเจ้าของสโมสรเชลซี อย่างเป็นทางการ

แต่การเปลี่ยนผ่านยุคสมัยเก่าเข้ามาสู่ยุคสมัยใหม่อย่าง “โบห์ลี” นั้นถือว่าเป็นงานยากสำหรับเจ้าของทีมคนใหม่เลยทีเดียว

เพราะที่ผ่านมาตลอด 19 ปี ที่อบราโมวิช ก้าวเข้ามาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นสร้างความยิ่งใหญ่เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ยูโรปา ลีก 2 สมัย และลีก คัพ 3 สมัย

เท่านั้นยังไม่พอยังคว้าแชมป์ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ และสโมสรโลก โดยเรียกได้ว่าในยุคของ “เสี่ยหมี” สามารถคว้าแชมป์มาครองครบทุกรายการแล้วโดยมีแชมป์ประดับสโมสร 21 รายการ

แม้ว่าสาวก “สิงห์โตน้ำเงินคราม” จะไม่ค่อยคาดหวังกับเจ้าของใหม่ซักเท่าไร เพราะใจจริงพวกเขาก็ไม่ได้อยากให้สโมสรอันเป็นที่รักต้องเปลี่ยนมือไปจาก “เสี่ยหมี” แต่อย่างใด

เนื่องจากที่ผ่านมาทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของอบราโมวิชเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น จะเสริมทัพไม่ว่าต้องใช้เงินมหาศาลเท่าไร “เสี่ยหมี” บอก “เซย์เยส” คำเดียวทุกอย่างจบ

ที่ผ่านมาเราจึงไม่ค่อยได้เห็นว่า “สิงห์โตนำ้เงินคราม” พลาดนักเตะที่ต้องการได้ตัวเลยซักครั้งถ้าพวกเขาต้องการได้ตัว เพราะเจ้าของสโมสรชาวรัสเซียทำทุกอย่างกระชับฉับไว เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้เงินเช่นกัน

พอมาถึงยุคใหม่ของ “โบห์ลี” นั้นคาดว่าเวลาจะซื้อนักเตะซักทีคงต้องใช้เวลาตัดสินใจพอสมควรเพราะการเทกโอเวอร์ครั้งนี้ไม่ใช่มหาเศรษฐีชาว อเมริกันคนเดียวที่เป็นเจ้าของยังมีกลุ่มทุนอื่นๆอีกด้วย

เวลาจะตัดสินใจอะไรซักทีต้องเข้าบอร์ดประชุมกันก่อนถึงจะตอบเซย์เยสได้ทำให้มีโอกาสสูงที่จะพลาดนักเตะคนสำคัญได้เช่นกันหาก

นักเตะคนนั้นเนื้อหอมและมีหลายทีมสนใจ เท่านั้นยังไม่พอสิ่งที่เป็นคำถามใหญ่ของสาวก “สิงห์โตน้ำเงินคราม” ก็คือการเข้ามาของ “โบห์ลี” นั้นเข้ามาเพราะรักฟุตบอลหรือแสวงหากำไรกับสโมสรอย่างเดียว

สโมสรต่างๆในอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นสโมสรที่สามารถทำกำไรได้เกือบทุกสโมสรในการเล่นหากเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก เพราะบรรดาแฟนบอลนั้นเรียกได้ว่ารักสโมสรแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวตัวเองเลยทีเดียว

ทำให้การเข้ามาเทกโอเวอร์กิจการของทุกคนเกือบจะทุกสโมสรจะมีแฟนบอลต่อต้านก่อน เพราะยังไม่แน่ใจว่าเจ้าของใหม่เข้ามาเพราะอะไร

ที่เข้ามาเพราะใจรักจริงๆยกตัวอย่างนั่นก็คือ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช ของเซลซี หรือ “เสี่ยวิชัย” วิชัย ศรีวัฒนประภา  ที่เข้ามาซื้อกิจการของเลสเตอร์ ซิตี้ ตอนแรกก็โดนค้านพออยู่ไปอยู่มาก็เป็นที่รักของแฟนบอลเพราะทำฟุตบอลด้วยจิตใจ

ส่วนที่เข้ามาปอกลอกนั้นก็มีให้เห็นนั่นก็คือตระกูลเกลเซอร์ที่นับตั้งแต่เข้ามาเทกโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แทบจะไม่ควักกระเป๋าออกเลยซักแดงเดียว หรือเวลาจะทำอะไรก็ชักช้าจนโดนคนอื่นๆแซงไปหมด จนทำให้ทีมตกต่ำอยู่ทุกวันนี้

ตัวอย่างนั้นมีให้เห็นว่าเจ้าของใหม่มีทั้งดี และร้าย

สุดท้าย “โบห์ลี” ที่เข้ามาเทกโอเวอร์ “สิงห์โตน้ำเงินคราม” จะเล่นบทบาทไหนก็ต้องตามลุ้นเอา!!

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ