อีก4ปีค่อยว่ากันใหม่ “ช้างศึก” ฮึดไม่ขึ้นพ่าย ยูเออี 1-3 หมดลุ้นไปบอลโลก!!

“ช้างศึก” หมดลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชียแน่นอนแล้ว หลังโดน ยูเออี กระทุ้งนำครึ่งแรก 2-0 แม้ว่า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะยิงไล่มาครึ่งหลัง แต่ช่วงทดเจ็บโดนยิงฝัง พ่ายไป 1-3

ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี
วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564
สนาม : ซาบีล สเตเดี้ยม

สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 3-1 ทีมชาติไทย
ผู้ทำประตู : 1-0 ไคโอ ซานิโด คอร์เรีย น.14, 2-0 ฟาบิโอ เด ลิม่า น.33, 1-2 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.54, 3-1 โมฮัมหมัด จูมา อิด น.90+4

ทีมเจ้าถิ่น “ยูเออี” ของกุนซือชาวดัตช์ เบิร์ต ฟาน มาไวค์ เกมล่าสุดถล่ม มาเลเซีย 4-0 ทำให้ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่ม โดยเกมนี้ยังมี ฟาบิโอ เด ลิม่า และ อาลี มับคุต ที่ยิงคนละ 2 ประตูในนัดล่าสุด นำทัพ

ส่วนทีมชาติไทย อากิระ นิชิโนะ ปรับผู้เล่น 11 คนแรก จากเกมเสมอ อินโดนีเซีย 2-2 ถึง 5 ตำแหน่ง โดย ศศลักษณ์ ไหประโคน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา,ศุภชัย ใจเด็ด ได้ออกสตาร์ทตัวจริง ขณะที่ “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง โดยมีรายงานว่าบาดเจ็บ

เริ่มครึ่งแรก ไทย เริ่มต้นได้ดี ไล่บี้ ครองบอลได้มากกว่า และนาทีที่ 8 ไทย น่าได้จุดโทษจังหวะ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดนผู้รักษาประตูยูเออี อาลี คาซีฟ เตะสกัดล้มในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่เป่า

ผ่าน 10 นาทีแรก ยูเออี เริ่มครองบอลบุกได้มากขึ้น และนาทีที่ 14 โอกาสแรกของเจ้าถิ่นก็เป็นประตูขึ้นนำทันที จากการโหม่งสกัดไม่เคลียร์ของแนวรับไทย บอลมาตกเข้าทาง ไคโอ ซานิโด คอร์เรีย ยิงสวนจังหวะเดียวตุงตาข่ายให้ ยูเออี ขึ้นนำ 1-0

หลังเสียประตู ไทย พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ และนาทีที่ 19 ไทย น่าได้ประตูตีเสมอจังหวะ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เปิดเรียดไปหน้าประตู สุภโชค สารชาติ เข้าชาร์จไม่ถึง บอลเลยไปเสาสอง เอกนิษฐ์ ปัญญา ยิงมุมแคบเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 23 ยูเออี ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะกระชากของ อาลี มับคูต เข้าไปในเขตโทษ ก่อนยิงออกหลังไปหวุดหวิด

นาทีที่ 27 ไทย เกือบเสียประตูเพิ่มจากจังหวะ อาลี มับคูต ได้บอลหลุดเดี่ยว แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังออกมาบล็อกไว้ได้

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ยูเออี เริ่มครองบอลมากกว่า และนาทีที่ 33 ก็ได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากการขึ้นเกมฝั่งขวา ก่อน บันดาร์ อัล อาห์บาบี้ เปิดให้ ฟาบิโอ เด ลิม่า โฉบเข้ามาโหม่งเสียบเสาเข้าไป

ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ยูเออี เน้นครองบอล ไม่เร่งเกมบุก ขณะที่ ไทย พยายามต่อบอลหาช่องเจาะแนวรับเจ้าถิ่น แต่ยังทำอะไรไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก ยูเออี ขึ้นนำ ทีมชาติไทย 2-0

กลับลงมาเล่นครึ่งหลัง อากิระ นิชิโนะ แก้เกมเปลี่ยน 2 คนรวด ส่ง เออร์เนสโต้ ภูมิภา และ สถาพร แดงสี ลงมาแทน ศศลักษณ์ ไหประโคน และ สุพรรณ ทองสงค์ ขณะที่ ยูเออี ยังใช้ชุดเดิม

นาทีที่ 49 ไทย เกือบได้ประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุม เออร์เนสโต้ ภูมิภา เปิดมาเสาแรก สุภโชค สารชาติ พุ่งโหม่ง แต่โดน มาห์มูด คามีส สกัดบนเส้นออกมาได้หวุดหวิด

นาทีที่ 51 ยูเออี ทำเกมบุกขึ้นมาและได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ บันดาร์ อัล อาห์บาบี้ กดเต็มข้อข้ามกำแพงไทย แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ปัดปลายมือ บอลชนคานออกหลังไป

นาทีที่ 54 ไทย ได้ประตูไล่มาเป็น 1-2 จากลูกเตะมุม เออร์เนสโต้ ภูมิภา เปิดเข้ากลาง ผู้รักษาประตูยูเออี ชกบอลออกไปได้ แต่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม โหม่งหนุนกลับมาถึง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กลับตัวยิงเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 62 อากิระ นิชิโนะ เปลี่ยนตัวคนที่ 3 ส่ง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ลงมาแทน เอกนิษฐ์ ปัญญา

หลังจากนั้น นาทีที่ 71 อากิระ นิชิโนะ เปลี่ยนตัวคนที่ 4 ส่ง ศิวกรณ์ เตียตระกูล ลงมาแทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

นาทีที่ 75 ไทย เกือบเสียประตูเพิ่มจากจังหวะยิงของ ฟาบิโอ เด ลิม่า ซัดเข้าข้างตาข่ายแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 82 โอกาสอีกครั้งของ ยูเออี ที่น่าจะใส่สกอร์เพิ่มจากลูกโหม่งจ่อๆ ของ อาลี มับคูต แต่เฉียดเสาออกไปหวุดหวิด

นาทีที่ 84 อากิระ นิชิโนะ ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาแทน ศุภชัย ใจเด็ด

ช่วงเวลาที่เหลือ ไทย พยายามบุกหวังตีเสมอให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังเจาะไม่เข้า ขณะที่ ยูเออี เน้นครองบอล รอจังหวะโต้กลับ และช่วงทดเจ็บนาที 90+4 ยูเออี ได้ประตูฝังจากตัวสำรอง โมฮัมหมัด จูมา อิด

จบเกม ยูเออี ชนะ ทีมชาติไทย 3-1 ทำให้ “ช้างศึก” หมดลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว แม้จะเหลือโปรแกรมอีก 1 นัด พบกับ มาเลเซีย ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้

ส่วนผลอีกคู่ เวียดนาม ถล่ม อินโดนีเซีย 4-0 ทำให้กลุ่มนี้ เวียดนาม ยังนำจ่าฝูง เตะ 6 นัด มี 14 คะแนน ตามมาด้วย ยูเออี เตะ 6 นัด มี 12 คะแนน ส่วน ไทย ยังอยู่ที่ 3 เตะ 7 นัด มี 9 คะแนน แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง ยูเออี, อันดับ 4 มาเลเซีย 6 นัด มี 9 คะแนน และอันดับ 5 อินโดนีเซีย 7 นัด มี 1 คะแนน

รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ : อาลี คาซีฟ (GK), บันดาร์ อัล อาห์บาบี้, วาลิด อับบาส (C), ชาฮิน อับดุลราห์มาน, มาห์มูด คามีส, อาลี ซัลมีน, อับดุลลาห์ รามาดาน, คาลิฟา มูบารัค, ฟาบิโอ เด ลิม่า, ไคโอ ซานิโด คอร์เรีย, อาลี มับคูต

ทีมชาติไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK-C), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุพรรณ ทองสงค์, มานูเอล ทอม เบียร์ห, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น, เอกนิษฐ์ ปัญญา, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ