เวลส์ – สวิตเซอร์แลนด์ (20:00 น.)
โรเบิร์ต เพจ กุนซือของ เวลส์ ยืนยันว่า อารอน แรมซี่ย์ รวมถึงนักเตะคนอื่นในทีมฟิตสมบูรณ์สำหรับการลงสนามนัดแรก
นอกเหนือจากนั้นนักเตะแบบ เนโก้ วิลเลียมส์ และ คอนนอร์ โรเบิร์ตส ก็ต่างถูกคาดหมายว่าจะได้ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คต่อ
ส่วนทางด้าน สวิตเซอร์แลนด์ นั้นไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเช่นกัน ทำให้พวกเขาจัดทัพได้อย่างตามที่ต้องการ
สำหรับในแดนหน้านั้น มาริโอ กาฟราโนวิช เพิ่งกดแฮตทริกมาในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายและอาจได้รับโอกาสเป็นตัวแทน ฮาริส เซเฟโรวิช ส่วนแดนกลางก็คาดหมายว่า เดนิส ซาคาเรีย จะเป็นคนจับคู่กับ กรานิท ชาก้า
เดนมาร์ก – ฟินแลนด์ (23:00 น.)
เดนมาร์ก ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บให้เป็นกังวลสำหรับการลงสนามเกมแรกของทัวร์นาเมนต์ เท่ากับว่าพวกเขามีนักเตะสำคัญๆพร้อมสำหรับการลงสนาม
คาสเปอร์ ฮูลมันด์ เฮดโค้ชของทีมคาดหมายว่าจะให้ คาสเปอร์ โดลเบิร์ก กับ โยนาส วินด์ ลงมาจับคู่กันเป็นหัวหอกในแดนหน้า
ทางด้าน ฟินแลนด์ เองน่าจะได้ ตีมู ปุกกี้ กองหน้าตัวหลักฟิตพอสำหรับการมีส่วนร่วม จากที่เจ็บข้อเท้าในเดือนก่อนแต่ก็กลับมาลงเล่นได้ 30 นาทีเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย
อย่างไรก็ตามพวกเขาจำเป็นต้องประเมินความพร้อมของ ทิม สปาร์ฟ กัปตันทีมของพวกเขา
เบลเยี่ยม – รัสเซีย (02:00 น.)
เบลเยี่ยม จะขาดมิดฟิลด์คนสำคัญแบบ เควิน เดอ บรอยน์ สำหรับการลงสนามเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก เพราะเขาพบอาการกระดูกเบ้าตาและจมูกแตกมาจากนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก
ส่วนกองกลางอีกคนแบบ อักเซล วิตเซล ก็โดนปัญหาเจ็บเอ็นร้อยหวายรบกวน
รัสเซีย มีข่าวร้ายตรงที่ อันเดรย์ มอสโตวอฟ กองกลางของพวกเขาตรวจพบว่าติดโควิด-19 วันนึงก่อนนัดแรก
โรมัน เยฟเจนเยฟ ที่เล่นในตำแหน่งกองหลังเลยถูกเรียกมาติดทีมชาติแทน
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– นี่จะเป็นหนที่ 6 ที่ เบลเยี่ยม ได้เจอกับ รัสเซีย เวลาเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ โดย 2 เกมแรกเป็นทาง รัสเซีย ที่คว้าชัยชนะแต่ 3 นัดหลังสุดเป็นชัยของ เบลเยี่ยม หมด
– 12 เกมหลังสุดในศึกยูโรของ เบลเยี่ยม นั้นไม่เคยจลลงด้วยผลเสมอเลย (ชนะ 5 แพ้ 7)