แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (19:30 น.)
แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี ราฟาเอล วาราน ที่จะหายหน้าไปเดือนนึงเนื่องจากอาการเจ็บแฮมสตริงที่เกิดขึ้นในเกมพบกับ อตาลันต้า
นอกเหนือจากนี้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ เซ็นเตอร์แบ็คอีกคนก็มีอาการเจ็บเล็กน้อยและจะต้องจับตาดูความพร้อม ส่วน ปอล ป็อกบา ติดโทษแบน
แมนฯ ซิตี้ เองก็จะไม่มี อายเมอริค ลาปอร์ต ที่ติดโทษแบนจากใบแดงในเกมก่อน ทำให้ จอห์น สโตนส์ เตรียมจะออกสตาร์ทเป็นนัดสองในลีกฤดูกาลนี้
พวกเขาจะต้องประเมินความพร้อมของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่โดนเปลี่ยนตัวออกจากเกมกลางสัปดาห์เพราะอาการเจ็บ
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เลยจากการเจอกับ แมนฯ ซิตี้ 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 3 เสมอ 1)
– แต่ แมนฯ ซิตี้ ก็ผ่านการบุกไปคว้าชัยถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด มา 6 จาก 10 เกมหลังสุดบนลีกสูงสุดแดนผู้ดี (เสมอ 2 แพ้ 2)
– แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตไม่ได้เลยตลอดการลงเล่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 13 นัดหลังสุด นับว่านานสุดนับตั้งแต่เมื่อปี 1964
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 2-2
เบรนท์ฟอร์ด – นอริช ซิตี้ (22:00 น.)
เบรนท์ฟอร์ด น่าจะได้ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ฟิตพอสำหรับการเป็นตัวจริงจากที่สุดสัปดาห์ก่อนมีปัญหาแฮมสตริงเลยเป็นเพียงสำรอง
คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ต้องพักอย่างน้อย 6 สัปดาห์ด้วยปัญหาเดียวกัน ส่วนทางด้าน โยอาเน่ วิสซ่า และ แชนดอน บาปติสต์ ยังพักข้างสนามต่อไป
นอริช หมดสิทธิ์ใช้ แกรนท์ แฮนลี่ย์ ที่ลงสนามไม่ได้เพราะอาการเจ็บกล้ามเนื้อ แถม โอซาน คาบัค ก็ต้องลุ้นหนักว่าจะพร้อมไหมเพราะไข้ต่อมน้ำเหลืองโต
อย่างน้อยพวกเขาได้ เบน กิ๊บสัน พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว ขณะที่สามหน่ออย่าง ท๊อดด์ แคนท์เวลล์, แซม ไบแรม และ คริสตอปห์ ซิมเมอร์มันน์ ยังเจ็บเหมือนเดิม
เบน ฟรีคิกฟันธง : เบรนท์ฟอร์ด ชนะ 3-1
เชลซี – เบิร์นลี่ย์ (22:00 น.)
เชลซี ได้ เมสัน เมาท์ กลับมาลงซ้อมหลังหายหน้าไปในช่วงหลังเพราะปัญหาฟันคุด แต่จะได้รับการประเมินความพร้อมก่อนเกม
โรเมลู ลูกากู, ทิโม แวร์เนอร์ และ มาเตโอ โควาซิช ลงสนามไม่ได้อยู่แล้วแต่จะมี มาร์กอส อลอนโซ่ เพิ่มอีกคนเพราะอาการเจ็บหัวเข่าจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีก
เบิร์นลี่ย์ จะต้องเช็คสภาพของ อารอน เลนน่อน ที่มีอาการป่วยก่อนเดินทางไปเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
ส่วนนักเตะที่พักมานานแบบ เดล สตีเฟ่นส์ ก็ยังคงไม่ฟื้นตัวจากอาการเจ็บข้อเท้า
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– เชลซี ผ่านการคว้าชัยเหนือ เบิร์นลี่ย์ ตลอดการเจอกัน 4 หนหลังสุดและไม่เสียประตูมาถึง 3 นัด
– หนเดียวที่ เบิร์นลี่ย์ เอาชนะ เชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีกได้จากการเจอกันทั้งหมด 14 หนนั้นเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2017 นอกนั้นเสมอมา 3 หนและแพ้ไป 10 นัด
เบน ฟรีคิกฟันธง : เชลซี ชนะ 2-0
คริสตัล พาเลซ – วูลฟ์ส (22:00 น.)
พาเลซ ได้ เอเรเบชี่ เอเซ่ หายเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาแล้ว แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการคืนสนามให้กับทีมชุดใหญ่
กระนั้นในรายของ นาธาน เฟอร์กูสัน ที่มีปัญหาเจ็บคล้ายๆกันก็ยังไม่หายกลับมาสักที
วูลฟ์ส เองอาจได้ มาร์ซาล สลัดปัญหาเจ็บข้อเท้ากลับมามีชื่อในเกมนัดนี้
วิลลี่ โบลี่ ที่ยังไม่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลยก็กำลังมีลุ้นที่จะได้ลงมาสัมผัสสนามบ้าง หลังจากเป็นสำรองในเกมเจอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อคืนวันจันทร์
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1
ไบรจ์ตัน – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (00:30 น.)
ไบรจ์ตัน จะประเมินสภาพความฟิตของ แดน เบิร์น ที่พลาดเกมเสมอกับ ลิเวอร์พูล ในสัปดาห์ก่อนเพราะปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่า
อารอน คอนนอลลี่ อาจหายจากอาการเจ็บส้นเท้าเล็กน้อยกลับมาฟิต แต่ แดนนี่ เวลเบ็ค กับ สตีเฟ่น อัลซาเต้ ต้องพักต่อไป
นิวคาสเซิ่ล จะให้ แกรห์ม โจนส์ คุมขัดตาทัพต่ออีกนัดและพวกเขาก็มีขุมกำลังที่ฟิตพร้อมสำหรับการลงสนาม จะขาดเพียงแค่ พอล ดัมเมตต์ คนเดียวเท่านั้น
นายด่านมือสามอย่าง เฟรดดี้ วูดแมน ก็พร้อมสำหรับช่วยทีมอีกครั้งนึงหลังหายจากปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อ
